. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและพละ 5 แล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปรมฌานและพละ 5 . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปรมฌานและพละ 5 . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและพละ 5 ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

บอกเข้าปฐมฌานและโพชฌงค์ 7

[328] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปฐมฌานและโพชฌงค์ 7 แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและโพชฌงค์ 7 อยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและโพชฌงค์ 7 แล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและโพชฌงค์ 7 . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและโพชฌงค์ 7. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและโพชฌงค์ 7 ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.

บอกเข้าปฐมฌานและอริยมรรคมีองค์ 8

[329] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปฐมฌานและอริยมรรคมีองค์ 8 แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและอริยมรรคมีองค์ 8 อยู่ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและอริยมรรคมีองค์ 8 แล้ว . . .ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและอริยมรรคมีองค์ 8 . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์